วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

สอ.เมาซ่าถีบหน้าตร.พังโรงพัก

" ส.อ." เมาซ่าซิ่ง เก๋งชนแอคคอร์ดคู่กรณีแล้วหนี โดนไล่ตามจนทันย่านนวมินทร์ ลงจากรถสภาพเมาแอ๋ ตร.มาระงับเหตุ อ้างตัวเป็น "พ.ท." อาละวาดไม่ยอมให้จับ

แถมใช้กาแฟสาดหน้าสายตรวจ ถูกจับล็อกใส่รถไปโรงพักถีบหน้าตร.อีก ถึงสน.ยังซ่าไม่เลิกพังวงจรปิดในห้องขังจนเสียหาย โดนไปอ่วมหลายข้อหา ผู้บังคับบัญชาตามมาดูถึงกับส่ายหน้า

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 25 ต.ค. ร.ต.อ.จิระพันธุ์ รุจิระกุล พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุรถเฉี่ยวชนกันบนถนนนวมินทร์ ระหว่างซอยนวมินทร์ 109-111 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมตำรวจสายตรวจ ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน วค 8815 กทม. มีนายมนัสวิน นุชนาถ อายุ 26 ปี เป็นคนขับ จอดขวางหน้ารถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเทา ทะเบียน พย 9662 กทม.

คนขับทราบชื่อภายหลังว่า ส.อ.ประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี อยู่ในสภาพเมามายอย่างหนัก โดยทั้งคู่กำลังโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ไม่สามารถตกลงกันได้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ส.อ.ประพัตร์อยู่ในอาการเมาสุราอย่างหนัก พูดจาเอะอะโวยวายไม่ยอมรับผิด แล้วยังด่าทอตำรวจด้วยถ้อยคำรุนแรงหยาบคาย

โดยอ้างตัวว่าเป็นนายทหารยศ "พ.ท." เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบสวนที่ สน.ลาดพร้าว แต่ส.อ.ประพัตร์ไม่ยอม อ้างว่าต้องให้ เสธ.แดง และวิทย์ บางแค มาเคลียร์

ส.ต.อ.พิชัย ศรีอุ้มสุข และด.ต.วิวัฒธนา ทวีอร่ามเรือง ผบ.หมู่ ป.สน.ลาดพร้าว พยายามเกลี้ยกล่อม แต่ส.อ.ประพัตร์ไม่ยอมไปโรงพัก บอกว่าขอคุยกับนายใหญ่ก่อน คนอื่นไม่เกี่ยว

แล้วอาศัยทีเผลอสาดกาแฟร้อนที่เพิ่งซื้อจากร้านเซเว่นฯ ใส่หน้าส.ต.อ.พิชัย และพยายามปรี่เข้าต่อย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันล็อกตัวใส่กุญแจมือคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

แต่ขณะนำตัวขึ้นกระบะท้ายรถสายตรวจ ส.อ.ประพัตร์ใช้เท้าถีบหน้าด.ต.วิวัฒธนาขณะปิดกระบะท้ายรถอย่างแรงจนบาดเจ็บ

เป็นแผลช้ำบวมบริเวณแก้มซ้าย เจ้าหน้าที่ค้นตัวส.อ. ประพัตร์ที่อ้างว่าเป็นนายทหารยศพ.ท. พบเอก สารระบุชื่อ ส.อ.ประพัตร์ เพ็งแข อายุ 43 ปี สังกัดกรมสารวัตรทหารบก (สห.ทบ.)

ส.ต.อ.พิชัย กล่าวว่า ระหว่างออกตรวจตราท้องที่ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุแล้วคู่กรณีตกลงกันไม่ ได้ จึงไปช่วยร้อยเวรที่บริเวณจุดเกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่าส.อ.ประพัตร์เอะอะโวยวายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับอ้างว่าตัวเองเป็นนายทหารยศพ.ท. และพยายามปรี่เข้ามาชกต่อย

ตนต้องใช้มือดันตัวออกไป ระหว่างนั้นส.อ.ประพัตร์สาดกาแฟร้อนใส่หน้าตนแล้วยังตรงเข้าทำร้าย ตนและเพื่อนตำรวจต้องช่วยกันล็อกตัวใส่กุญแจมือ

ด้านด.ต.วิวัฒธนา กล่าวว่า ตนตามมาสมทบทีหลัง ส.อ.ประพัตร์เมามากและรูปร่างสูงใหญ่ ตนต้องเข้าไปช่วยเพื่อนตำรวจควบคุมตัวไว้ เมื่อนำขึ้นกระบะท้ายรถสายตรวจ ส.อ.ประพัตร์

เอนตัวลงนอนกับกระบะรถ ตนไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเหตุการณ์ตอนนั้นเริ่มสงบแล้ว แต่จังหวะที่กำลังปิดฝาท้ายรถก็ถูกส.อ.ประพัตร์ถีบเข้าหน้าอย่างจังจนบวมช้ำ

ขณะ ที่นายมนัสวิน คู่กรณีส.อ.เมากร่างกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถกลับบ้าน แต่ถูกรถคู่กรณีขับมาชนประตูด้านซ้ายจนเป็นรอยบุบแล้วขับหลบหนี

ตนไม่ยอมขับไล่ตามไปปาดหน้าเพื่อให้หยุดรถมาตกลงพูดคุยกัน กระทั่งมาหยุดได้ช่วงบริเวณซอยนวมินทร์ 111

ตนลงจากรถไปเคาะกระจกเพื่อให้ลงมาตกลงกัน แต่คู่กรณีเอะอะโวยวาย บอกว่าเป็นทหารพร้อมกับข่มขู่ต่างๆ นานา ตนเลยรีบแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ

ร.ต.อ.จิระพันธุ์กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่กับส.อ.ประพัตร์ ส่วนข้อหาขับรถขณะมึนเมาสุรายังไม่ได้แจ้ง

เพราะยังไม่สามารถให้เป่าเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ได้ เนื่องจากส.อ.ประพัตร์ยังควบคุมสติอารมณ์ไม่ได้และไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้า หน้าที่

จึงควบคุมตัวไว้ในห้องขังเพื่อให้สงบสติอารมณ์ก่อนแจ้งต้นสังกัดรับทราบ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตำรวจควบคุมตัวมาที่ สน.ลาดพร้าว ส.อ.ประพัตร์ยังพูดจาเอะอะโวยวายตลอดเวลา เมื่อเข้าไปในห้องขังได้ทำลายหลอดไฟและกล้องวงจรปิดจนเสียหาย

ต่อมาผู้บังคับบัญชาของส.อ.ประพัตร์เดินทางมาที่โรงพัก เมื่อได้ฟังคำชี้แจงจากร้อยเวรและเห็นสภาพของส.อ.ประพัตร์ในห้องขังแล้ว

ถึงกับส่ายศีรษะ บอกให้ร้อยเวรขังเอาไว้ก่อนแล้วจะส่งทหารพระธรรมนูญมาดำเนินการตามขั้นตอน ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: