วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เตือนภัยแฟชั่น *เจาะจิ๋ม* เสี่ยงติดเชื้อ

สธ.เตือนภัยแฟชั่น *เจาะจิ๋ม* เสี่ยงติดเชื้อถึงตาย
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแฟชั่นการเจาะอวัยวะเพศซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นหญิงว่า กลุ่มวัยรุ่นมักจะมีแฟชั่นเป็นของตนเอง และพบว่าขณะนี้เริ่มมีแฟชั่นการเจาะใส่เครื่องประดับอวัยวะเพศเข้ามา จึงอยากเตือนว่า ไม่ควรเจาะใส่เครื่องประดับตรงบริเวณดังกล่าว เพราะจะก่อให้เกิดอันตรายได้ เนื่องจากบริเวณอวัยวะเพศหญิงเป็นที่อับชื้น ทำให้มีเชื้อโรคแบคทีเรีย ซ้ำยังเป็นส่วนที่มีเส้นเลือดหล่อเลี้ยงมาก หากมีการเจาะบริเวณนี้ ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดบาดแผล เกิดความเจ็บปวด ทรมาน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้ ตั้งแต่เกิดอาการอักเสบ บวมแดง และอาจมีการติดเชื้อลามไปถึงท่อปลีกมดลูก ท่อปัสสาวะและไต นอกจากนี้หากมีการติดเชื้อไปในกระแสโลหิตยังอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยในรายที่ติดเชื้อลามไปถึงท่อปลีกมดลูกอาจทำให้มดลูกตีบตัน ไม่ได้สามารถมีบุตรได้

การเจาะอวัยวะเพศหญิงนั้น จะเจาะตรงส่วนที่เรียกว่าแคมใหญ่ และบริเวณด้านนอก โดยมีการนำเอาโลหะที่เป็นเครื่องประดับมาร้อยใส่ไว้ ซึ่งแฟชั่นนี้วัยรุ่นจะทำตามเพื่อนๆ และคิดเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่โก้เก๋ แต่เมื่อผ่านไปสักพักหนึ่งจะมาให้แพทย์นำออก เพราะนอกจากรู้สึกเจ็บและรำคาญแล้ว ยังมีการเสียดสีตรงบริเวณดังกล่าวบ่อยครั้ง จนทำให้เกิดการอักเสบตามมา* น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าว

รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่เชื่อว่า เมื่อเจาะและใส่เครื่องประดับที่อวัยวะเพศแล้ว จะส่งผลให้มีความรู้สึกทางเพศมากขึ้นนั้น ต้องขอเรียนว่า เรื่องความรู้สึกทางเพศนั้น ต้องอาศัยจากหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่เมื่อเจาะใส่วัตถุใดที่อวัยวะเพศแล้ว จะทำให้มีความรู้สึกทางเพศมากขึ้น ซึ่งความเชื่อนี้ไม่เฉพาะแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่เข้าใจผิด แต่พบว่าในกลุ่มผู้ชายก็มีเชื่อเช่นนี้ เนื่องจากพบว่ามีการฝังวัตถุที่อวัยวะเพศตนเอง แต่ปรากฏว่าในความเป็นจริง ไม่เพียงแต่เจ็บปวดจากการฝังและเจาะอวัยวะเพศเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง หรือขาดความรู้สึกทางเพศไปเลย ดังนั้นการเจาะอวัยวะเพศจึงไม่ได้เป็นการกระตุ้นความรู้สึกทางเพศอย่างที่เข้าใจ

น.ต.นพ.บุญเรือง กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้การเจาะใส่เครื่องประดับจะนิยมเจาะที่ใบหู อันตรายเกิดขึ้นน้อย เพราะไม่ใช่ตำแหน่งจุดสำคัญอะไร แต่ต่อมาก็นิยมหันมาเจาะใส่เครื่องประดับตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ที่ริมฝีปาก จมูก และสะดือ รวมถึงอวัยวะเพศอย่างที่พบในปัจจุบัน ซึ่งการเจาะในเครื่องประดับอวัยวะเพศหญิงจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพอย่างมาก ดังนั้นวัยรุ่นจึงไม่ควรเลียนแบบ นอกจากนี้ยังอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้ จากการใช้อุปกรณ์เจาะที่ไม่มีการทำความสะอาดที่ดีพอ.

ไม่มีความคิดเห็น: