วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ด.ญ.เจาะลิ้น เข็มหลุดแทงลำคอ

ด.ญ.เจาะลิ้นเข็มหลุดแทงโคนลิ้น
สาววัย 14 เด็กแนวเลียนแบบดารานักร้องคนดัง ไปเจาะลิ้นแต่เข็มที่ใส่หมุดเกิดหลุดทิ่มแทงเข้าไปในโคนลิ้น พยายามจะดึงออกแต่เข็มยิ่งมุดเข้าไปลึก ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะลิ้นอักเสบจนคับปาก จะกินข้าวกินน้ำทั้งทีแสนลำบาก ครั้งจะไปหาหมอก็ไม่มีเงินเนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนเลยทนเจ็บปวดนานเดือนกว่า ผู้ว่าฯ รู้ข่าวลงพื้นที่สั่งให้นำตัวส่ง รพ.ทันที หมอไม่รับปากจะผ่าตัดได้เพราะลิ้นมีเส้นประสาทละเอียดอ่อน กลัวพลาดจะทำให้หมดรู้รสอาหาร เตรียมเรียกแพทย์ประชุมหาทางช่วยเหลือพร้อมยกให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจเด็กวัยรุ่น จะทำอะไรให้คิดดี ๆ เสียก่อน

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพิจิตร ได้รับการเปิดเผยจากนายประสิทธิ์ มีช่าง เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า เมื่อช่วงเช้าได้นำตัว ด.ญ.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ไปที่ รพ.พิจิตร เพื่อให้แพทย์ตรวจลิ้น เนื่องจากเจ้าตัวไปเจาะลิ้นมา แล้วเข็มหมุดเกิดหลุดเจาะเข้าไปในโคนลิ้น พอจะดึงออกเข็มยิ่งลงลึกกว่าเดิม ทำให้ขณะนี้ลิ้นเกิดอับเสบจนคับเต็มปาก จะพูด จะกินข้าวหรือน้ำสุดแสนลำบาก

จากการสอบถาม ด.ญ.ส้มทราบว่า ตนเรียนหนังสือถึงชั้น ม.2 จากนั้นไม่ได้เรียนต่อ เพราะฐานะทางบ้านยากจน ประกอบกับสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากป่วยเป็นโรค ถุงลมโป่งพองจนต้องผ่าตัดปอดทิ้งไปข้างหนึ่ง กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนเห็นเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันไปเจาะหู เจาะคิ้ว เจาะสะดือ เจาะลิ้น เลียนแบบดารานักร้องคนดัง ตนกับเพื่อนเลยเอาแบบอย่างบ้าง โดยตนไปเจาะลิ้นแต่บังเอิญเข็มหมุดเกิดหลุดเจาะเข้าไปในโคนลิ้น ครั้งแรกญาติพยายามช่วยกันดึงออกแต่ดึงเท่าไรก็ไม่ออก แถมยิ่งทำให้เข็มหมุดแทงลึกเข้าไปกว่าเดิม จากนั้นจึงไปที่สาธารณสุขประจำตำบล แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมเลยบอกให้ไปรักษาใน รพ.พิจิตร ครั้งแรกตนไปหาหมอและเอกซเรย์ไว้ แต่หลังจากนั้นไม่ได้ไปพบแพทย์ตามที่สั่งเพราะไม่มีเงินค่ารถ จึงปล่อยทิ้งไว้จนลิ้นอักเสบจนบวมใหญ่คับปาก

เด็กแนวจอมซ่าบอกต่อว่า พอวันเดียวกันนี้ขณะที่นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนใน อ.โพธิ์ประทับช้าง ญาติเลยเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือ พอทางผู้ว่าฯ ทราบได้สั่งให้เจ้าหน้าที่พาตนส่ง รพ.พิจิตร ทันที ขณะที่ นพ.ประจักษ์ วัฒนกูล รก.ผอ.รพ.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากเอกซเรย์พบว่ามีเข็มหมุดอยู่ลึกเข้าไปใน โคนลิ้นจึงนัดให้คนไข้มาหาอีกทีในวันที่ 21 ต.ค. แต่คนไข้ไม่ยอมมาพบแพทย์ กระทั่งผู้ว่าฯทราบเรื่องและช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.ดังกล่าว

นพ.ประจักษ์บอกต่อว่า ขณะนี้แพทย์ยังไม่รู้จะรักษาอย่างไรดี ครั้นจะดึงออกก็ดึงไม่ได้ พอจะผ่าตัดก็มีความเสี่ยงสูง เพราะลิ้นมีเส้นประสาทที่ละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะต่อมรู้ รสอาหาร หากผิดพลาดนิดเดียวอาจทำให้ต่อมรู้รสอาหารเสีย ซึ่งจะเรียกแพทย์ที่เกี่ยวข้องมาประชุมหาทางช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ยังขอให้เป็นกรณีตัวอย่างเตือนใจวัยรุ่นทั้งหลายที่คิดจะเจาะอะไรตามร่างกายขอให้ปรึกษาพ่อแม่หรือผู้ปกครองเสียก่อน หากผิดพลาดไปจะเสียใจภายหลัง.

ไม่มีความคิดเห็น: